top of page

Happy New Year 2017

Happy New Year 2017

31 ธันวาคม 2016

แสงไฟจากร้านค้าที่อยู่ด้านนอกบวกกับเสียงเพลงและอากาศที่เย็นจนหายใจแทบจะเป็นควันทำให้ร่างเล็กที่พยายามคดตัวนอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนาลุกขึ้นนั่ง เขาเบนสายตาออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะถอนหายใจออกมา

เป็นแบบนี้อีกแล้วสินะ

เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของปี นัมอูฮยอนจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่กับบรรยากาศที่ดูครึกครื้นด้านนอก และถ้าหากเป็นคนอื่นในเวลาสามทุ่มแบบนี้ ก็คงจะกำลังเดินชมแสงไฟตามท้องถนนหรือเดินจู๋จี๋อยู่กับแฟนแน่ ๆ แต่กับอูฮยอนคนนี้แล้วนั้น มันช่างต่างกันเสียสิ้นเชิง

เจ้าของร่างนุ่มทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงอีกครั้งก่อนที่มือขาวจะดึงผ้าห่มสีฟ้าอ่อนมาคลุมโปงหวังให้มันช่วยบรรเทาความหนาว –ไม่ใช่ความหนาวจากภายนอก แต่เป็นความหนาวจากภายในต่างหาก

เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้วที่วันสิ้นปีเขาจะต้องมานอนเคาท์ดาวน์กับคุณเตียง คุณผ้าห่ม และคุณเพดานสูง ไม่ใช่ว่าอูฮยอนไม่มีเพื่อน เพียงแต่เพื่อน ๆ ของเขาต่างติดภาระกิจของตนเองกันเสียนี่ บ้างก็ไปเคาท์ดาวน์กับครอบครัว บ้างก็ไปกับแฟน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอย่างหลัง ความจริงเขาก็อยากกลับไปใช้เวลากับครอบครัวในวันสิ้นปีเหมือนสองปีที่แล้ว แต่เพราะเหตุบางอย่างจึงทำให้เขาจำเป็นต้องนอนมองเพดานสีขาวอยู่แบบนี้

และอาจเป็นเพราะเขาทนแรงกระตุ้นจากบรรยากาศภายนอกไม่ไหว สุดท้ายแล้ว หลังจากที่นอนมองเพดานสลับกับนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงไปมาอยู่นาน นัมอูฮยอนจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะหาเสื้อผ้าที่หนาพอจะด้านทานลมหนาวเพื่อออกไปชมบรรยากาศด้านนอกได้ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่เขาจะต้องมานอนอุดอู้แบบนี้อีกปีล่ะนะ

อูฮยอนเดินไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ตากลมมองไปรอบตัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเล็ก ๆ แสงไฟที่ถูกนำมาประดับกับต้นไม้ข้างทางตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสช่างเข้ากับบรรยากาศหน้าหนาวเสียเหลือเกิน เสียงเพลงที่ถูกบรรเลงจากร้านค้าแต่ล่ะร้านดังออกมาด้านนอกนั่นทำให้เจ้าของริมฝีปากอิ่มเผลอยิ้มออกมา

ข้อมือเล็กถูกยกขึ้นมามองเวลาบนนาฬิกาคู่ใจ ก่อนจะพบว่ายังเหลือเวลาอีกประมาณสองชั่วโมงกว่าวันใหม่จะมาถึง สองขาจึงเลี้ยวเข้าร้านกาแฟข้างทางเพื่อหาอะไรทำฆ่าเวลา

อูฮยอนชอบร้านกาแฟแห่งนี้ เขามักจะแวะมาที่นี่บ่อย ๆ สาเหตุก็คงเพราะนอกจากจะหอมกลิ่นกาแฟแล้ว ทีนี่ยังมีหนังสือเรียงรายอยู่เต็มไปหมดเสียจนทำให้บรรยากาศคล้ายกับร้านหนังสือเก่ามากกว่านั่นเอง

กลิ่นหนังสือช่างเข้ากับกลิ่นกาแฟหอม ๆ เสียเหลือเกิน

นัมอูฮยอนสั่งโกโก้ร้อนกับพนักงานหญิงหน้าตารักคนเดิมก่อนจะจ่ายเงิน ทั้งสองยิ้มให้กันเล็กน้อย

“สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ” เอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางรับใบเสร็จ

“ขอบคุณค่ะ คุณก็เช่นกันนะคะ”

อูฮยอนเลือกนั่งบริเวณเคาท์เตอร์บาร์ติดกับกระจกบานใหญ่ เขาสังเกตผู้คนที่เดินผ่านไปด้วยรอยยิ้ม จริง ๆ เมื่อมานั่งคิดแล้ว เรื่องที่ตัวเองโสดมันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ ออกจะดีเสียอีกทีไม่ต้องคอยกังวลใจต่าง ๆ นานา แต่ ณ ตอนนี้ มันก็คงจะดีกว่าถ้าหากมีใครไปร่วมเคาท์ดาวน์กับเขาด้วย

กลิ่นของโกโก้ที่ลอยมาแตะจมูกทำให้เจ้าตัวหันไปมอง

“โกโก้ร้อนค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

อูฮยอนก้มมองโกโก้ร้อนในแก้วก่อนจะนำช้อนเล็กที่ได้มาด้วยคนเล็กน้อยแล้วยกขึ้นมาจิบอย่างเงียบ ๆ อาจจะเป็นเพราะโกโก้พึ่งถูกชงใหม่ จึงทำให้ความร้อนของมันลวกเข้าที่ปากของเขา

“อ่า! บ้าเอ้ย” ว่าออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อรู้สึกอาการแสบชาบริเวณปลายลิ้น และดูเหมือนเสียงนั่นจะดังไปเสียหน่อยจึงทำให้บุคคลที่นั่งอยู่ด้านข้างหันมามอง

เขาเป็นชายหนุ่มผิวขาวที่สวมแว่นบังดวงตาเรียวบนใบหน้า อูฮยอนก้มหัวขอโทษเล็กน้อยตามมารยาทเนื่องจากตนเองได้ไปส่งเสียงรบกวนการอ่านหนังสือเล่มหนาของอีกฝ่าย เขาเพียงแค่มองอูฮยอนด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือต่อ

แปลกคนแฮะ – ได้แต่นึกในใจก่อนจะหันไปสนใจกับทิวทัศน์ตรงหน้า

จู่ ๆ ทิชชู่ก็ถูกวางลงใกล้ ๆ กับแก้วโกโก้ของเขา อูฮยอนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาหันไปมองทางตำแหน่งของทิชชู่ที่ถูกยื่นมา ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มองมาที่เขา สายตาเรียวนั่นยังคงจับจ้องที่หนังสือ อูฮยอนเกาหัวเล็กน้อย เขาหันไปมองรอบ ๆ ตัวก่อนจะสังเกตเห็นว่าบริเวณนี้มีเพียงเขาและชายหนุ่มคนนี้นั่งอยู่เท่านั้น

“ขอบคุณนะครับ” ประโยคถูกเอ่ยออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าใครเป็นเจ้าของ อีกฝ่ายละสายตามามองอูฮยอนก่อนจะพยักหน้าตอบรับแล้วหันไปสนใจหนังสือ

หนอนหนังสือชะมัด

เวลาผ่านไปนานพอสมควร โกโก้ที่สั่งมาก็เริ่มพร่องลงจนกระทั่งหมดแก้ว เขาได้แต่นั่งขยับตัวไปมา หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างคนไม่อยู่นิ่ง โดยส่วนตัวแล้วอูฮยอนเป็นคนชอบคุย การที่มานั่งเงียบ ๆ คนเดียวแบบนี้มันจึงทำให้เขารู้สึกอึดอัดและเบื่อ ครั้นจะโทรศัพท์หาเพื่อนก็เกรงใจ สุดท้ายแล้วจึงได้แต่หันไปหาบุคคลข้างกายเพื่อคลายความเบื่อ

“มาคนเดียวหรอครับ” ประโยคของอูฮยอนไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหันมามองสักนิด เจ้าของดวงตาเรียวใต้แว่นยังคงจับจ้องไปที่หนังสือเล่มหนา อูฮยอนลอบถอนหายใจ

“ขอบคุณสำหรับทิชชู่นะครับ” ในที่สุด อีกฝ่ายก็ละสายตาจากหนังสือได้ เขาสบตากับอูฮยอนตรง ๆ อูฮยอนจึงยิ้มให้ตามปรกติ แต่ชายหนุ่มตาเรียวกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยดังเดิม ซึ่งนั่นมันทำให้อูฮยอนรู้สึกเสียความมั่นใจ

“ไม่เป็นไรครับ” เสียงของอีกฝ่ายกระตุ้นอาการตอบรับของอูฮยอนได้ดี ร่างเล็กยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะเริ่มชวนอีกฝ่ายต่อบทสนทนาไปเรื่อย ๆ ถึงแม้เขาจะเอาแต่อ่านหนังสือและหันมาตอบอูฮยอนเป็นบางครั้งก็ตาม

อย่างน้อยมันก็ดีกว่านั่งเฉาคนเดียวล่ะนะ

ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพักจนรู้ตัวอีกทีอูฮยอนก็เผลอขยับเก้าอี้เข้าไปนั่งข้าง ๆ กับอีกฝ่ายเสียแล้ว

“อ่า คุยกันมาตั้งนานผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย ขอโทษนะครับ ผมนัมอูฮยอนครับ” อูฮยอนเอ่ยด้วยรอยยิ้มตามเคย

“ผมคิมซองกยูยินดีที่ได้รู้จักและขอบคุณที่กวนเวลาการอ่านหนังสือของผมนะครับ” ประโยคที่ดูเหน็บแหนมของเขาทำให้อูฮยอนรู้สึกคิ้วกระตุก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงยิ้มตอบรับออกไป

ดูเหมือนว่าอีกฝ่าย หรือ คิมซองกยูจะเป็นคนพูดน้อยและชอบหมกตัวอยู่กับหนังสือเป็นซะส่วนใหญ่ ผิดกับอูฮยอนที่ไม่ค่อยชอบหนังสือเท่าไหร่นัก เพราะจากที่คุยกันมาสักพัก อูฮยอนมักจะเป็นฝ่ายพูด ฝ่ายถามอยู่ตลอดเวลา ซึ่งซองกยูเองก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง และตอนตอบ เจ้าตัวก็ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามองเขาด้วยซ้ำ

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเริ่มเข้าสู่วันใหม่และปีใหม่ อูฮยอนได้แต่ขยับตัวอย่างลุกลี้ลุกลน ความจริงเขาเองก็ควรจะแยกตัวออกไปจากซองกยูได้แล้วหลังจากที่นั่งเงียบกันมานานเนื่องจากบทสนทนาจบลง แต่อะไรบางอย่างดันดลใจให้อูฮยอนยังคงนั่งอยู่ต่อ และลอบมองอีกฝ่ายเป็นระยะ จนกระทั่งเอ่ยคำพูดบางคำออกมา

“ไม่ทราบว่าคุณซองกยูพอจะมีเวลาไหมครับ” เจ้าของชื่อเงยหน้าจากหนังสือมามองด้วยสายตาแปลก ๆ ทันทีเมื่ออูฮยอนพูดจบ

“ผ-ผมไม่ได้มาขายของอะไรให้คุณนะครับ วางใจได้” ท่าทางที่ดูลนลานทำให้ซองกยูเผลอหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย มันดูคล้ายกับเด็กที่กำลังปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองกำลังทำผิดไม่ปาน

“ผมหมายถึงหลังจากนี้คุณพอจะมีเวลาสักเดี๋ยวไหมน่ะครับ” ซองกยูเลิกคิ้วอย่างสงสัย สายตาที่มองมาทำให้อูฮยอนได้แต่เสมองออกไปนอกกระจกด้วยท่าทีอาย ๆ

“คือถ้าไม่รบกวนช่วยไปเคาท์ดาวน์เป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหมครับ”

และเช่นเคย นัมอูฮยอนก็ได้รับสายตาแปลก ๆ จากคนข้างกายอีกครั้ง

มือเล็กถูกยกขึ้นมาส่ายไปมาอย่างพัลวันทันที “ข-ขอโทษนะครับถ้าผมพูดอะไรแปลกๆออกไป เมื่อกี้ลืมมันไปเถอะครับ แฮะ ๆ” หัวเราะแห้ง ๆ พร้อมกับเกาหัวตนเองด้วยความอายก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

อูฮยอนรู้ว่ามันแปลกที่จะชวนคนแปลกหน้าไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน เขาเพียงแค่คิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเขาไม่ได้ไปเคาท์ดาวน์คนเดียวอีกในปีนี้ และมันคงจะดีถ้าคนข้างกายเขาตอนนี้ออกไปเคาท์ดาวน์กับเขาด้วย แปลกใช่ไหมล่ะ

หลังจากที่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบไปสักพักพร้อมกับความอายที่ค่อย ๆ ลดลง เสียงจากคนข้างกายก็ดังขึ้น ซึ่ง เรียกรอยยิ้มจากอูฮยอนได้เป็นอย่างดี

“ได้สิครับ”

สุดท้ายแล้ว อูฮยอนก็ออกมากับซองกยูจนได้

สองร่างเดินไปตามทางเรื่อย ๆ ต่างคนต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ถึงแม้จะมีบางครั้งที่ซองกยูเองเงียบไปจนทำให้อูฮยอนพูดคนเดียวบ้างก็ตาม แต่จากบทสนทนาก่อน ๆ ก็ทำให้อูฮยอนรู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์แย่เท่าที่คิดไว้

ใช้เวลาพอสมควร อูฮยอนและซองกยูก็เดินมาถึงบริเวณลานกว้างที่ถูกจัดไว้สำหรับชมพลุในวันปีใหม่ ผู้คนต่างหลั่งไหลมาที่แห่งนี้จนดูแออัด ซองกยูพ่นลมหายใจออกมาเสียงดังจนอูฮยอนรู้สึกผิด ถึงแม้อยากจะเข้าไปด้านหน้าขนาดไหน อูฮยอนก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้เมื่อคิดได้ว่าตนเองจะทำให้ซองกยูรู้สึกลำบาก แต่จู่ ๆ ฝ่ามือของเขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่น ๆ จากมือของใครบางคน – ใครบางคนที่อยู่ข้างกาย

ร่างที่ยืนนิ่งอยู่ในคราแรก ตอนนี้กลับถูกคนที่มาด้วยจูงให้เดินตามเข้าไปยังฝูงชนที่หนาแน่น ทั้งสองพยายามเบียดผู้คนเข้าไปด้านในพลางเอ่ยขอโทษ จนกระทั่งทั้งคู่เจอที่เหมาะแก่การชมพลุ มือหนาของซองกยูก็ปล่อยออกจากมือของอูฮยอน

ผู้คนรอบข้างต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นที่อีกไม่นานปีใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น จนทำให้ทั่วบริเวณนั้นเสียงดังคล้ายกับฝูงนกที่มารวมตัวกัน แต่กับพวกเขา ซองกยูและอูฮยอน มันเงียบเสียจนคิดว่าต่างฝ่ายต่างมาคนเดียว มือเล็กยกขึ้นมาเกาหัวเล็กน้อยอย่างเขิน ๆ จากการโนกระทำเมื่อครู่ เขากระแอ้มไอเล็กน้อยก่อนจะลอบมอง

“เอ่อ... ผมขอโทษนะครับที่ชวนคุณมาที่แบบนี้ คุณอาจจะไม่ค่อยชอบที่ ๆ มีคนเยอะเท่าไหร่ใช่ไหม”

“ใช่ครับ แต่คุณอูฮยอนอยากเข้ามาไม่ใช่หรอครับ ไหน ๆ มาถึงแล้วก็ควรจะทำให้บรรลุเป้าหมายนะครับ” ประโยคของซองกยูส่งผลให้อูฮยอนยิ้ม

“ขอบคุณนะครับ”

เหลือเวลาอีกไม่กี่นาที สิ่งที่ทุกคนรอยคอยก็จะมาถึง

อูฮยอนรู้สึกตื่นเต้นเสียจนมือเริ่มชื้นเหงื่อ เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาเคาท์ดาวน์ในที่แบบนี้ แถมยังมากับคนที่พึ่งรู้จักไม่ถึงหนึ่งวันอีกต่างหาก มันให้ความรู้สึกแปลก ๆ ดีอยู่เหมือนกัน

“จะว่าไป แป๊บเดียวก็หมดปีแล้วนะครับ เวลามันผ่านไปไวจริง ๆ”

“เขาถึงได้บอกว่าจะทำอะไรก็ให้รีบ ๆ ทำยังไงล่ะครับ เพราะเวลามักจะไม่รอใคร” ซองกยูเอ่ยพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้างที่มืดสนิทในวันนี้ อูฮยอนหันไปมองก่อนจะนิ่งไปเล็กน้อย เขาละสายตาจากซองกยูแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าเช่นเดียวกัน

“นั่นสินะครับ”

ทั้งสองต่างเหม่อมองท้องฟ้ามืดอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งพลุสีสวยถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสัญญาณแห่งปีใหม่

เสียงพลุดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนต่างหันไปอวยพรให้กันด้วยรอยยิ้ม แสงพลุที่สะท้อนลงบนใบหน้าของนัมอูฮยอนทำให้ซองกยูเห็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขอย่างชัดเจน เขายืนมองอูฮยอนอยู่อย่างนั้นถึงแม้ว่าพลุจะถูกจุดขึ้นกระบอกแล้วกระบอกเล่าก็ตาม บางทีซองกยูก็คิดว่ารอยยิ้มของนัมอูฮยอนดูสวยกว่าพลุบนท้องฟ้าเสียอีก

ใช่ นัมอูฮยอนดูเป็นคนน่ารำคาญสำหรับคนที่ชอบความเงียบอย่างเขา แต่เสียงของอูฮยอนกลับทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด อย่างตอนนี้เอง ถ้าหากเป็นปรกติ ซองกยูคงต้องขอบายแน่ ๆ ถ้าถูกชวนมาในสถานที่คนมีผู้คนแออัดแบบนี้

จู่ ๆ สายตาที่กำลังทอดมองพลุที่เปล่งประกายอยู่บนทองฟ้ากลับหันมาสบเข้าที่ตาเรียวของซองกยูแทน จนซองกยูรู้สึกอายตัวเองแปลก ๆ ที่เผลอไปจ้องอีกฝ่ายแบบนั้น รอยยิ้มกว้างถูกส่งมาให้เขาอีกครั้ง

“สุขสันต์วันปีใหม่นะครับคุณซองกยู”

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับคุณอูฮยอน”

บางที .... นี่อาจจะเป็นการเริ่มปีใหม่ที่ดีก็ได้

หลังจากที่การจุดพลุฉลองปีใหม่จบลง ผู้คนก็เริ่มทยอยกลับพร้อมกับเสียงรอบบริเวณที่ค่อย ๆ เบาลง

“ขอบคุณคุณซองกยูมากนะครับที่สละเวลามาดูพลุเป็นเพื่อนผม” อูฮยอนยิ้ม “การเคาท์ดาวน์ครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมามาก ๆ เลยล่ะครับ” ซองกยูที่ได้ยินก็นิ่งไปเล็กน้อย

“ผมเอง ... ก็เช่นกันครับ” อูฮยอนหัวเราะน้อย ๆ เมื่อได้ยินประโยคที่ดูตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย

“ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับคุณนะครับคุณซองกยู แล้วก็ขอบคุณมากจริงๆครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” เจ้าของประโยคก้มหัวบอกลาเล็กน้อยตามคำพูดก่อนจะหันหลังหมุนตัวเดินออกไป

แต่เสียงของอีกฝ่ายที่ดังขึ้นมา ทำให้เขาชะงัก

“คุณอูฮยอนครับ!” เจ้าของชื่อหันมามองพร้อมกับเอียงหัวอย่างสงสัย

“ครับ?”

“ถ้าไม่เป็นการรบกวน เคาท์ดาวน์ครั้งหน้า .... มาด้วยกันอีกไหมครับ?” ประโยคที่ถูกเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ทำให้อูฮยอนเบิกตากว้างก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะปรากฏออกมาตาม

“ได้สิครับคุณซองกยู”

- จบ -

Featured Posts
Check back soon
Once posts are published, you’ll see them here.
Recent Posts
Archive
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page